Internet
Explorer อินเทอร์เน็ตเอกซ์พลอเรอร์
วินโดวส์ อินเทอร์เน็ตเอกซ์พลอเรอร์ (อังกฤษ:
Windows Internet Explorer) (ก่อนนี้เรียกว่า
ไมโครซอฟท์ อินเทอร์เน็ตเอกซ์พลอเรอร์) โดยมีชื่อย่อว่า ไออี (IE) เป็นเว็บเบราว์เซอร์ของไมโครซอฟท์และเป็นซอฟต์แวร์ที่มีให้พร้อมกับระบบปฏิบัติการวินโดวส์
ไออีเป็นเว็บเบราว์เซอร์ที่มีนิยมคนนิยมใช้มากเป็นตัวหนึ่ง
โดยในปี 2545 มีสัดส่วนการใช้งานในตลาดเว็บเบราว์เซอร์ประมาณ 95%
และมีแนวโน้มลดลงเนื่องจากมีคู่แข่งที่เพิ่มมากขึ้นจนถึงประมาณ 46% ในปี พ.ศ. 2554
รุ่นล่าสุดคือรุ่น อินเทอร์เน็ตเอกซ์พลอเรอร์ 9 ซึ่งสามารถใช้ได้สำหรับ วินโดวส์ 7, วินโดวส์ วิสตา และ วินโดวส์เซิร์ฟเวอร์
2008[1][2][3][4]
รุ่นของอินเทอร์เน็ตเอกซ์พลอเรอร์สำหรับระบบปฏิบัติการอื่นมีหลากหลาย
เช่น อินเทอร์เน็ตเอกซ์พลอเรอร์โมเบิลสำหรับโทรศัพท์มือถือและสมาร์ตโฟน
พัฒนาต่อบนพื้นฐานของอินเทอร์เน็ตเอกซ์พลอเรอร์ 7 ใช้งานในวินโดวส์โฟน 7 และ
วินโดวส์ CE นอกจากนี้ยังมีหลายรุ่นที่หยุดการพัฒนาไปเช่น
อินเทอร์เน็ตเอกซ์พลอเรอร์สำหรับแม็ค อินเทอร์เน็ตเอกซ์พลอเรอร์สำหรับยูนิกซ์
ที่ใช้ในโซลาริส และ เอชพี-ยูเอกซ์
ในปัจจุบันทางไมโครซอฟท์เปิดให้ทดลองใช้
อินเทอร์เน็ตเอกซ์พลอเรอร์ 10 ผ่านทางการดาวน์โหลดของเว็บไซต์ไมโครซอฟท์
สำหรับผู้ใช้งาน วินโดวส์ 7
หน้าตาเว็บ
Internet Explorer
Mozilla
Firefox มอซิลลา ไฟร์ฟอกซ์
มอซิลลา ไฟร์ฟอกซ์ (อังกฤษ: Mozilla Firefox) รู้จักในชื่อ ไฟร์ฟอกซ์
เป็นเว็บเบราว์เซอร์ที่สามารถใช้ได้ในหลายระบบปฏิบัติการ
พัฒนาโดยมูลนิธิมอซิลลาและอาสาสมัครอีกหลายร้อยคน
ปัจจุบันอยู่ใต้การดำเนินงานของบริษัทมอซิลลา
ปัจจุบันไฟร์ฟอกซ์เป็นเว็บเบราว์เซอร์ที่นิยมอันดับ 3 รองจากอินเทอร์เน็ตเอกซ์พลอเรอร์และกูเกิลโครม
และเมื่อแบ่งตามรุ่นของแต่ละเบราว์เซอร์ ไฟร์ฟอกซ์ รุ่น 3.5
เป็นเบราว์เซอร์ที่มีคนใช้มากที่สุดในโลก[7][8] ไฟร์ฟอกซ์มีส่วนแบ่งในตลาดเว็บเบราว์เซอร์ทั่วโลกร้อยละ
24.61[9] และมีส่วนแบ่งในตลาดเว็บเบราว์เซอร์ในประเทศไทยร้อยละ
15.28[10] (ข้อมูลเมื่อธันวาคม พ.ศ. 2552)
ไฟร์ฟอกซ์ใช้เกกโกตัวเรนเดอริงเอนจินโอเพนซอร์ซซึ่งจัดการตามมาตรฐานเว็บสอดคล้องกับทางดับเบิลยูธรีซีกำหนดไว้
และเพิ่มคำสั่งพิเศษเข้าไป
คำสั่งไฟร์ฟอกซ์เป็นซอฟต์แวร์ที่เปิดให้โปรแกรมเมอร์ที่เรียกว่า
"แอด-ออนส์" ทำงานร่วมกับตัวโปรแกรม โดยปัจจุบันมีมากกว่า 2,000 ตัว[11] โดยตัวที่นิยมมากที่สุดตามลำดับคือ
ฟอกซีทูนส์ (ควบคุมโปรแกรมเล่นเพลง) สตัมเบิลอัปออน (ค้นหาเว็บไซต์) แอดบล็อกพลัส
(บล็อกโฆษณา) ดาวน์เดมออล! (ดาวน์โหลด) และเว็บเดเวลอปเปอร์
(เครื่องมือสำหรับทำเว็บ) [12]
ไฟร์ฟอกซ์ทำงานได้ในหลายระบบปฏิบัติการรวมถึง
วินโดวส์ แมคโอเอสเท็น ลินุกซ์ รุ่นปัจจุบันคือรุ่น 12.0 ออกเมื่อวันที่ 24 เมษายน
พ.ศ. 2555 ตัวโค้ดโปรแกรมเขียนขึ้นในภาษา C++ XUL XBL
และ จาวาสคริปต์ โดยโค้ดทั้งหมดเปิดให้ใช้ฟรีภายใต้ลิขสิทธิ์ MPL
GPL / LGPL และ Mozilla EULA โดยที่ในรุ่นนี้ได้ทำารแก้Bugในรุ่น9.0ที่ทำให้เบราว์เซอร์Crashบนระบบปฏิบัติการหลักทั้งสามตัว ในกรณีที่ติดตั้งTools Barบางตัวลงไป
ไฟร์ประวัติ
โครงการไฟร์ฟอกซ์ริเริ่มโดย เดฟ
ไฮแอตต์ และ เบลก รอสส์ จากแนวความคิดการสร้างซอฟต์แวร์แยกย่อยมาจากโครงการมอซิลลา
โดยตั้งใจพัฒนาโปรแกรมเดี่ยวที่ทำงานมุ่งเน้นสำหรับเป็นเว็บเบราว์เซอร์แยกออกมาจากโปรแกรมชุดมอซิลลา
(Mozilla Suite) โดยในวันที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2546
มูลนิธิมอซิลลาได้ประกาศแผนการพัฒนามุ่งเน้นไปที่ไฟร์ฟอกซ์และทันเดอร์เบิร์ดแทนที่โปรแกรมชุดมอซิลลา[14]
ชื่อโครงการได้มีการเปลี่ยนชื่อหลายครั้งกว่าจะมาเป็นไฟร์ฟอกซ์
ซึ่งเริ่มต้นที่ชื่อ "ฟีนิกซ์" (Phoenix) ต่อมาได้ถูกเปลี่ยนภายหลังจากมีปัญหาในด้านเครื่องหมายการค้ากับบริษัทฟีนิกซ์เทคโนโลยีผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ไบออส
โดยเปลี่ยนมาเป็นชื่อ "ไฟร์เบิร์ด" (Firebird) และอีกครั้งได้มีปัญหาชื่อซ้ำซ้อนกับระบบจัดการฐานข้อมูลไฟร์เบิร์ด
และในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2547
ทางมูลนิธิมอซิลลาได้เปลี่ยนชื่ออีกครั้งมาเป็น "ไฟร์ฟอกซ์" (Firefox)
โดยใช้ชื่อย่อว่า Fx หรือ fx[15] ไฟร์ฟอกซ์ 1.0
ได้เปิดให้ใช้งานอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2547
โดยระหว่างนั้นได้มีการปรับแก้ตลอดเวลารวมถึงเพิ่มระบบความปลอดภัยให้กับตัวซอฟต์แวร์
โดยรุ่นถัดมาคือ ไฟร์ฟอกซ์ 1.5 ที่ออกมาเมื่อ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2548 และตามมาด้วย
ไฟร์ฟอกซ์ 2 เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2549 ซึ่งในปัจจุบันไฟร์ฟอกซ์ 3 กำลังอยู่ในขั้นทดสอบ
ผู้นำโครงการปัจจุบันคือ เบน กูดเจอร์
(Ben Goodger - ปัจจุบันเป็นพนักงานของกูเกิล
แต่ยังคงทำหน้าที่นี้อยู่) ปัจจุบันมีผู้ดาวน์โหลดไปมากกว่า 100 ล้านชุด
และปริมาณการใช้ในแถบยุโรปสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศฟินแลนด์
สัญลักษณ์
สัญลักษณ์ของไฟร์ฟอกซ์ออกแบบโดย จอน
ฮิกส์ ถึงแม้ว่าตัวโปรแกรมจะเป็นซอฟต์แวร์เสรีและโอเพนซอร์ส
แต่สัญลักษณ์นี้เป็นเครื่องหมายการค้าของมูลนิธิมอซิลลา
ดังนั้นผู้อื่นที่เผยแพร่ซอฟต์แวร์นี้จึงไม่สามารถใช้สัญลักษณ์นี้ได้ (เช่น
ไฟร์ฟอกซ์ของโครงการเดเบียน เป็นต้น)ฟอกซ์ในปัจจุบันรับรองการใช้ 75 ภาษา
หน้าตาเว็บ Mozilla Firefox
Safari ซาฟารี
(Safari)
คือเว็บเบราว์เซอร์ที่พัฒนาโดยบริษัทแอปเปิล คอมพิวเตอร์
สำหรับเครื่องแมคอินทอช โดยมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Mac OS X รุ่น 10.3 เป็นต้นไป และสตีฟ จอบส์
ได้ประกาศในวันที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2550 เปิดตัวซาฟารีสำหรับวินโดวส์
หน้าตาของซาฟารีมีลักษณะสีเงินวาว (brush metal) เหมือนกับลักษณะของ ซอฟต์แวร์เล่นเพลง
ไอทูนส์ ซาฟารีรุ่นที่สองเรียกว่า Safari RSS ใช้ได้กับ Mac
OS X รุ่น 10.4 ขึ้นไป
ซาฟารี ใช้ตัววาดหน้าเว็บชื่อ WebCore ซึ่งพัฒนามาจากตัววาดหน้าเว็บชื่อ เว็บคิต
ที่พัฒนาต่อมาจาก KHTML ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการซอฟต์แวร์เสรี
KDE
ความสามารถพิเศษของซาฟารี [แก้]
คุณสมบัติพื้นฐานของเว็บเบราว์เซอร์
ซาฟารี มีอยู่ด้วยกันหลายอย่าง
RSS Ready ซาฟารีสนับสนุนการเปิดดูข้อมูลที่เป็น
XML โดยแสดงผลออกมาให้สามารถใช้งานได้ง่าย
โดยยังสามารถปรับขนาดของคำอธิบายได้จากแถบ Article Length ได้ด้วย ป้องกันป๊อปอัพซาฟารี
มีความสามารถกันป๊อปอัพกันการแสดงหน้าจดแบบไม่พึงประสงค์
ความเป็นส่วนตัว
สามารถเปิดใช้งานความเป็นส่วนตัวได้โดยเลือกคำสั่ง
Private Browsing โดยในระบบความเป็นส่วนตัวนี้
ซาฟารีจะไม่จดจำข้อมูลหลังจากที่เลือก Private Browsing ไว้ในประวัติการใช้งาน
และเมื่อเลิกใช้เพียงแค่ปิดโปรแกรมแล้วเปิดใหม่ Private Browsing ก็จะปิดทำงานโดยอัตโนมัติ แท็บเบราว์ซิง
ซาฟารี รองรับการทำงานแท็บด์เบราว์ซิง
(tabbed browsing) โดยผู้ใช้สามารถเปิดดูเว็บเพจหลายๆอันภายในหน้าต่างเดียวกันได้ เสิร์ชเอนจินในตัว ซาฟารี มีเสิร์ชเอนจิน
ที่เชื่อมโยงกับ Google
การจัดการดาวน์โหลด
ระบบการจัดการดาวน์โหลด
มีคุณสมบัติพิเศษคือสามารถทำการหยุดและดาวน์โหลดต่อจากการหยุดครั้งก่อนได้
การย้อนประวัติการใช้งานแบบเร็ว (SnapBack)
โดยปกติหากต้องการย้อนประวัติการเปิดดูเว็บเพจ
ในบางครั้งอาจจะต้องคลิกปุ่ม Back ย้อนหลังหลายครั้ง ซาฟารีจึงมีคำสั่ง Mark Page to SnapBack เพื่อย้อนกลับมายังเว็บเพจ ที่เราระบุไว้ได้ โดย SnapBack ยังทำงานอัตโนมัติกับเว็บเพจที่เราพิมพ์ URL เข้าไปใหม่เสมอ ตรวจดูประวัติการเข้าชมและบุ๊กมาร์ค
โดยใช้ Clover Flow
ทำให้ตวจดูประวัติและบุ๊กมาร์คได้ง่ายขึ้น เปลี่ยนไปใช้เอนจิน Nitro ทำให้โหลดจาวาสคริปต์เร็วกว่าเบราว์เซอร์อื่นๆ
มีเครื่องมือสำหรับนักพัฒนาเว็บ ซาฟารีสามารถตรวจสอบการใช้ทรัพยากรของหน้าเว็บนั้นๆได้
Opera โอเปร่า
โอเปร่า (Opera) คือชื่อซอฟต์แวร์
ที่รวมเว็บเบราว์เซอร์และโปรแกรมสำหรับใช้งานอินเทอร์เน็ตอื่น ๆ
พัฒนาโดยบริษัทโอเปร่า ประเทศนอร์เวย์
ในปัจจุบันโอเปร่าเป็นผู้นำในตลาดเว็บเบราว์เซอร์สำหรับโทรศัพท์มือถือ และพีดีเอ
นอกจากนี้ยังถูกนำไปใช้ในระบบโทรทัศน์ที่มีการโต้ตอบระหว่างผู้ชม (interactive
television, iTV) ในบางประเทศ เมื่อไม่นานนี้
บริษัทโอเปร่าได้ร่วมมือกับบริษัทอะโดบีซิสเต็มส์
ผู้ผลิตซอฟต์แวร์ด้านการสร้างสรรค์สื่อ เพื่อรวมโอเปร่ากับโปรแกรมในชุด
อะโดบีครีเอทีฟสวีท
และเมื่อ 20 กันยายน 2548 ทาง opera
(Opera Software ASA) ได้เปิดให้ opera browser (เวอร์ชันสำหรับ desktop) เป็นซอฟต์แวร์ที่สามารถโหลดใช้งานได้ฟรี
และไม่มี Ad Banner ใด ๆ ในตัวโปรแกรม
สามารถใช้งานได้เต็มรูปแบบ
ชุดโอเปร่าประกอบไปด้วย
โปรแกรมค้นดูเว็บ (เว็บเบราว์เซอร์)
โปรแกรมอีเมล (E-mail client)
โปรแกรมไออาร์ซี (IRC client)
โปรแกรมสมุดที่อยู่ (Address book)
โปรแกรมอ่านข่าวจากแหล่งข้อมูลอื่น (News aggregator)
โปรแกรมโอเปร่าวิจิท (Opera Widget)
ระบบปฏิบัติการที่ใช้ได้
โอเปร่าสามารถใช้ได้ในในระบบปฏิบัติการต่าง
ๆ ดังนี้ (ตัวเลขในวงเล็บคือรุ่นล่าสุดของโอเปร่าที่ใช้ได้
โดยแต่ละภาษาอาจแตกต่างกัน)
หน้าตาเว็บ
Opera
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น